สิงคโปร์เคยผลักดันอาเซียนขับกัมพูชา เหตุโน้มเอียงจีน-ขัดหลักความเป็นกลาง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา เคยมีความพยายามจากฝ่ายการทูตของสิงคโปร์ในการผลักดันให้อาเซียนพิจารณาขับกัมพูชาออกจากการเป็นสมาชิกอาเซียน โดยประเด็นหลักมาจากท่าทีของกัมพูชาที่ถูกมองว่าโน้มเอียงอย่างชัดเจนไปทางจีน ซึ่งขัดต่อหลักการสำคัญของอาเซียนว่าด้วย “ความเป็นกลาง” (Neutrality) ที่เป็นแกนกลางของความร่วมมือในภูมิภาค

นักการทูตอาวุโสของสิงคโปร์ในยุคนั้นมองว่าพฤติกรรมของกัมพูชา ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของอาเซียนในเวทีโลก แต่ยังอาจบั่นทอนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกลุ่มประเทศสมาชิก โดยเฉพาะในประเด็นปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งกัมพูชาถูกวิจารณ์ว่ามักไม่สนับสนุนแนวทางการแก้ปัญหาแบบพหุภาคี (multilateral approach) ที่ประเทศอย่างฟิลิปปินส์และเวียดนามพยายามผลักดัน
รายงานระบุว่า แม้ความพยายามในการขับกัมพูชาออกจากอาเซียนจะไม่ประสบผลสำเร็จในเชิงรูปธรรม แต่กรณีนี้สะท้อนความตึงเครียดและแรงกดดันภายในกลุ่มสมาชิกอาเซียนเกี่ยวกับการดำรงความเป็นกลางในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน
ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่สิงคโปร์พยายามผลักดันให้อาเซียนพิจารณาขับกัมพูชา (รวมถึงลาว) ออกจากสมาชิก มีต้นทางจากการแสดงความเห็นของ Bilahari Kausikan อดีตนักการทูตอาวุโสของสิงคโปร์ในปี 2020 ซึ่งระบุว่า กัมพูชาและลาวเสี่ยงเป็น “ตุ๊กตาหน้าหุ่น” ของจีน และการโน้มเอียงเข้าหาจีนขัดต่อหลัก “neutrality” ของอาเซียน
เขาระบุว่า “True neutrality means knowing your own interests … and not allowing others to define your interests” และหากพฤติกรรมดังกล่าวยังดำเนินต่อไป จนส่งผลเสียต่อกลุ่มสมาชิกอื่น อาเซียนอาจจำต้อง “cut loose the two” เพื่อกอบกู้ความเข้มแข็งของกลุ่ม
ในประเด็นนี้ สิงคโปร์มองว่าการที่กัมพูชาใช้บทบาทของจีนในการบ่อนทำลายการออกแถลงการณ์ร่วมของอาเซียน เช่น ตอนไม่ให้กล่าวถึงข้อพิพาททะเลจีนใต้เมื่อปี 2012 และ 2016 ทำให้อาเซียนไม่สามารถออกแถลงร่วมที่มีพลัง เช่นเดียวกับที่ฟิลิปปินส์และเวียดนามต้องการ
สรุปคือ—แม้ไม่เกิดการไล่สมาชิกจริง แต่ประเด็นนี้สะท้อนความกังวลลึกซึ้งของสิงคโปร์ต่อการที่สมาชิกบางประเทศอาจเดินตามผลประโยชน์มหาอำนาจจนละเลยหลักการความเป็นกลางของอาเซียน



