
สื่อท้องถิ่นกัมพูชารายงานกระแสแรงงานจำนวนมากที่เคยเดินทางไปทำงานในประเทศไทย เริ่มทยอยกลับมาทำงานในประเทศตนเอง โดยแรงงานหลายคนเปิดใจตรงกันว่า การทำงานในกัมพูชาทำให้พวกเขารู้สึกมี “คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” เนื่องจากได้อยู่กับครอบครัวใกล้ชิด ไม่ต้องเผชิญกับความเหงาหรือความกดดันจากการทำงานในต่างแดน
แรงงานบางรายเผยว่า งานในกัมพูชามีความกดดันน้อยกว่าและมีลักษณะการทำงานที่สบายกว่าการทำงานในไทย แม้รายได้อาจไม่สูงเท่าที่เคยได้รับในต่างประเทศ แต่การได้ใช้ชีวิตท่ามกลางครอบครัวและชุมชนที่คุ้นเคยกลับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสร้างความสุขใจมากกว่า
รายงานระบุว่า กระแสแรงงานกัมพูชาที่เลือกกลับบ้านครั้งนี้ อาจสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและทัศนคติของแรงงานรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับ “ความสมดุลชีวิตและครอบครัว” มากกว่าการแสวงหารายได้เพียงอย่างเดียว.
แรงงานกัมพูชาทยอยกลับบ้าน เทียบชีวิตทำงานไทย-กัมพูชา รายได้ต่าง แต่ “คุณภาพชีวิต” ชนะใจ
สื่อกัมพูชารายงานว่า ช่วงหลังแรงงานจำนวนหนึ่งที่เคยเดินทางไปทำงานในประเทศไทย เริ่มกลับมาทำงานในบ้านเกิด พร้อมให้เหตุผลว่า การทำงานในกัมพูชาทำให้พวกเขามีความสุขมากกว่า แม้รายได้จะน้อยกว่า แต่ได้อยู่ใกล้ครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นใจ
📌 เทียบค่าแรงไทย vs กัมพูชา
-
ประเทศไทย : ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยวันละ 330–370 บาท (ประมาณ 10,000–12,000 บาทต่อเดือน) แต่ต้องทำงานหนัก บางแห่งเกิน 8 ชั่วโมง และมีค่าครองชีพสูง โดยเฉพาะค่าเช่าห้อง อาหาร และการเดินทาง
-
กัมพูชา : ค่าแรงขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 7,400 บาท) แม้น้อยกว่าไทย แต่ค่าครองชีพต่ำกว่า และแรงงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงด้านที่พัก เพราะส่วนใหญ่สามารถอยู่กับครอบครัว
📌 ปัจจัยด้านชีวิตความเป็นอยู่
-
ไทย : โอกาสสร้างรายได้สูงกว่า แต่แรงงานต่างด้าวจำนวนมากต้องเผชิญกับสภาพการทำงานที่กดดัน การถูกตรวจสอบด้านเอกสาร และห่างไกลครอบครัว ทำให้เกิดความเครียดและความเหงา
-
กัมพูชา : รายได้อาจน้อยกว่า แต่การอยู่ในประเทศตนเองช่วยให้แรงงานมีเครือข่ายครอบครัวและชุมชนคอยสนับสนุน ลดความโดดเดี่ยว อีกทั้งงานบางประเภทมีความยืดหยุ่นและไม่กดดันเท่าการทำงานในไทย
📌 มุมมองนักเศรษฐศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานมองว่า กระแสแรงงานกัมพูชาที่กลับประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับ “คุณภาพชีวิตและครอบครัว” มากกว่าการแสวงหารายได้เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน ไทยอาจต้องเผชิญแรงกดดันในการหามาตรการรักษาแรงงานต่างด้าวไว้ในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม



