2 ทหารไทยจบนายร้อยฝรั่งเศส! ค้นเอกสารลับฝรั่งเศส ยืนยันชัด “เกาะกูดเป็นของไทย 1000%”

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 – รายงานจาก “วาสนา นาน่วม” เผยความคืบหน้าเชิงประวัติศาสตร์และความมั่นคง เมื่อ 2 นายทหารไทยที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยชั้นนำของฝรั่งเศส “แซงท์ซีร์” ร่วมกันค้นคว้าและตรวจสอบเอกสารทางประวัติศาสตร์สำคัญจาก “หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส” และ “สำนักจดหมายเหตุ กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส” เพื่อยืนยันสิทธิ์ในดินแดน “เกาะกูด” อย่างเป็นทางการ
พลโท ดร.พีรพล สงนุ้ย หรือ “ดร.ปุ้ย” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ ร่วมมือกับ พันเอกประชา สมิทธ์สมบูรณ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกไทยประจำกรุงปารีส ที่จบจากแซงท์ซีร์เช่นเดียวกัน ลงลึกข้อมูลเชิงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนระหว่าง “สยาม” และ “อินโดจีนฝรั่งเศส” ตามสนธิสัญญา ค.ศ.1907

เอกสารสำคัญที่นำมาใช้ในการอ้างอิง ได้แก่
-
Série: Nouvelle Série, Sous-Série: Siam, Volume 76–79 จากหอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส
-
เอกสารของคณะกรรมการปักปันเขตแดน สยาม–อินโดจีนฝรั่งเศส
-
บันทึกวาจาเมืองไพลิน (PV) ลงวันที่ 8 ก.พ.1908
-
แผนที่ทางราชการหลายฉบับ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1920–1939
สาระสำคัญจากเอกสาร
-
หลักเกณฑ์การปักปันเขตแดนระบุว่า หากไม่มีเขตแดนธรรมชาติ ต้องตกลงกัน โดย “ห้ามให้สยามเสียประโยชน์”
-
สนธิสัญญาระบุว่า เส้นเขตแดนฝั่งอ่าวไทย เริ่มจากฝั่งตรงข้ามเกาะกูด แล้วลากขึ้นเขากระวาน
-
บันทึกปี 1908 กำหนดชัดเจนว่าเขตแดนเริ่มจากแหลมสารพัดพิษไปยังยอดเขา 129 โดย เกาะกูดไม่ใช่จุดถูกแบ่งเขต
-
แผนที่ฝรั่งเศสหลายฉบับ เช่น ปี 1920, 1927, 1933, 1939 ต่างแสดงชัดว่า “เกาะกูดอยู่ในเขตสยาม”
-
โดยเฉพาะแผนที่ปี 1933 ที่ระบุชัดว่า เส้นเขตแดนทางทะเลระหว่าง “เกาะกง” กับ “เกาะกูด” ไม่ได้ผ่านเกาะกูด
-
และแผนที่ป่าไม้ของอินโดจีน ค.ศ.1939 ที่ “เกาะกูด” ถูกระบายสีขาวอยู่ในสยาม ในขณะที่ “เกาะกง” ระบายสีเขียวในกัมพูชา
-
การค้นคว้าครั้งนี้ยืนยันว่า “เกาะกูด” ไม่เคยตกเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศสหรือประเทศกัมพูชา แม้แต่ในบันทึกของฝ่ายฝรั่งเศสเอง และเป็นหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ที่แน่นหนา ซึ่ง ตอกย้ำสถานะของเกาะกูดในฐานะดินแดนของไทย 1000%
ทั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทหารไทย ที่ใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และจริยธรรมวิชาชีพในการปกป้องอธิปไตยของชาติ บนพื้นฐานของเอกสารประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยน้ำหนักทางกฎหมายและการทูต



