
วานนี้ (1 ก.ย. 2568) เพจ กองทัพบกทันกระแส เผยภาพและข้อความเกี่ยวกับความเสียหายของ ปราสาทตาเมือนธม อ.ภูสิงห์ จ.สุรินทร์ หลังเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า แม้จะผ่านมากว่า 1 เดือนจากการประกาศหยุดยิง แต่ร่องรอยความเสียหายบนโบราณสถานยังคงชัดเจน

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า ในวันเกิดเหตุ กัมพูชาได้ระดมยิงทั้งปืนเล็ก ปืนใหญ่ และจรวด BM-21 ใส่พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อพยายามยึดพื้นที่ แต่กองทัพไทยสามารถรักษาพื้นที่เอาไว้ได้
กองทัพบกชี้ว่า การกระทำของกัมพูชาเป็นการ ละเมิดอนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในกรณีพิพาททางอาวุธ รวมถึงขัดกับพันธกรณีที่กัมพูชาในฐานะภาคีของอนุสัญญามรดกโลกควรปฏิบัติ เพราะกัมพูชาเองก็มีแหล่งมรดกโลกหลายแห่งที่ต้องได้รับการปกป้องเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ทหารกัมพูชานำโบราณสถานอย่างปราสาทตาควายมาใช้ในทางทหาร โดยเปลี่ยนเป็นฐานปฏิบัติการ รวมถึงมีการฝังทุ่นระเบิดรอบพื้นที่โบราณสถาน ซึ่งเสี่ยงทำให้โบราณสถานเหล่านี้ได้รับความเสียหายมากขึ้น
กองทัพบกระบุว่า การกระทำของกัมพูชาไม่เพียงเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ยังเป็น การไม่เคารพต่อมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ และทำให้โบราณสถานอันทรงคุณค่าตกอยู่ในอันตรายอย่างชัดเจน






